ช็อก! ผอ.องค์การเภสัชฯ เดนมาร์ก หมดสติ ขณะแถลงข่าว

ช็อก! ผอ.องค์การเภสัชฯ เดนมาร์ก หมดสติ ขณะแถลงข่าว

กลายที่พูดถึงกันอย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากที่มีคลิปวินาที ผอ.องค์การเภสัชฯ เดนมาร์ก หมดสติ ขณะกำลังแถลงข่าวเรื่องแอสตราเซเนกา เมื่อวันที่ 14 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า แทนยา อีริคเซน ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ได้เป็นลมหมดสติ ขณะที่เธอ และ นาย ซอเริน โบรชตรอม ผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเดนมาร์ก ได้ร่วมกันแถลงการยุติการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาอย่างถาวร เนื่องจากการตรวจพบผู้ได้รับวัคซีนแสดงอาการลิ่มเลือดอุดตัน

อย่างไรก็ตามในขณะที่แถลงอยู่นั้น แทนยา ก็ล้มลงไปนอนกับพื้น 

สร้างความตกใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่หลายคนมีสติ จึงเข้าปฐมพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและนำตัวส่งโรงพยาบาล รายงานข่าวระบุว่า อีริคเซน มีอาการป่วยไม่สบาย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัดว่าการหมดสติครั้งนี้มีสาเหตุมาจากอะไร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ แทนยา อีริคเซน มีการฟื้นตัวและอาการดีขึ้นแล้ว

ประเทศเดนมาร์กถือเป็นชาติแรกที่มีคำสั่งยกเลิกการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาอย่างถาวร แม้ก่อนหน้านี้หลายชาติในสหภาพยุโรป หรือ EU จะมีคำสั่งยุติการฉีดวัคซีนชนิดดังกล่าวเป็นการชั่วคราวก็ตาม

อินเดีย ประกาศเตรียม ฉีดวัคซีน ให้ประชาชนอายุมากกว่า 18 ปี ท่ามกลางความกังวลถึงปัญหาวัคซีนที่ไม่เพียงพอ ขณะที่ยอดผู้ป่วยใหม่ทยานสูง เมื่อวันที่ 20 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการอินเดียประกาศว่าทางการจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ท่ามกลางยอดผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์

โดยขณะนี้ประเทศอินเดียได้ฉีดวัคซีนให้กับ เจ้าหน้าที่แพทย์, เจ้าหน้าที่แนวหน้า, ประชาชนที่มีอายุ 45 ปี หรือ อาศัยอยู่ในรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเป็นพื้นที่มียอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามทางการอินเดียกำลังเผชิญภาวะวัคซีนขาดแคลน ซึ่งการประกาศครั้งนี้ได้นำไปสู่การตั้งคำถามถึงการจัดการบริหารวัคซีนป้องกันโควิด ซึ่งในสัปดาห์ที่แล้วทางการได้กล่าวว่า พวกเขามีวัคซีน 27 ล้านโดส ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสามารถฉีดวัคซีนได้เพียงพอแค่ 9 วันเท่านั้น

ในปัจจุบันทางการอินเดียได้อนุมัติวัคซีนสามชนิดได้แก่ วัคซีนจากสถาบันเซรุ่ม และ บารัต ไบโอเอนเท็ค ซึ่งเป็นวัคซีนที่ถูกผลิตขึ้นในประเทศอินเดีย และ วัคซีน สปุตนิ๊ก ไฟว์ วัคซีนจากประเทศรัสเซีย อย่างไรก็ตามทางการอินเดียระบุว่าพวกเขาอนุญาตให้สามารถใช้วัคซีนที่ได้รับอนุมัติจากชาติอื่นๆได้

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลับมาวิกฤติอีกครั้ง หลังจากที่ทางการอินเดียพบผู้ป่วยใหม่มากกว่า 2 แสนราย ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าสูงกว่าจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยอดผู้ป่วยสะสมในอินเดียอยู่ที่มากกว่า 15 ล้านราย และมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวแล้ว 180,000 ศพ

งานวิจัยชี้ โควิดเชื้อสายบราซิล อาจอันตรายขึ้นในอนาคต

สถาบันสุขภาพสาธารณะ ในประเทศบราซิล เผยแพร่งานวิจัย โควิดเชื้อสายบราซิล เปิดเผยว่าไวรัสอาจอันตรายขึ้นในอนาคต เมื่อวันที่ 14 เมษายน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สถาบันสุขภาพสาธารณะ ฟิโอครูซ ในประเทศบราซิล ได้เผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับโควิดกลายพันธุ์เชื้อสายบราซิล โดยในงานวิจัยระบุว่าการกลายพันธุ์ของไวรัสอาจจะส่งผลให้ไวรัสสามารถต้านทานวัคซีนได้มากขึ้น เนื่องจากการกลายพันธุ์สามารถทำให้เชื้อไวรัสหลบหลีกภูมิต้านทานได้ดีขึ้น

โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ทำวิจัยฉบับดังกล่าวเปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คล้ายคลึงกับ โควิดเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ซึ่งจากงานวิจัยเปิดเผยว่าประสิทธิภาพของวัคซีนต่อโควิดกลายพันธุ์เชื้อสายแอฟริกาใต้จะลดลง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า มันเป็นเรื่องน่ากังวลใจมาก ที่เชื้อไวรัสสามารถวิวัฒนาการได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ในงานวิจัยฉบับดังกล่าวยังระบุอีกว่าโควิดกลายพันธุ์สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น 2.5 เท่ากับโควิดชนิดทั่วไปอีกด้วย

ขณะเดียวกัน เอสเตอร์ ซาบิโน นักวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์ยาของมหาวิทยาลัย เซาเปาโล ระบุว่าเธอไม่แปลกใจที่โควิดสายพันธุ์บราซิลกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสถานการณ์โควิดในบราซิลขณะนี้เชื้อแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การกลายพันธุ์ง่ายขึ้น

แม้ว่าในปัจจุบันแอสตราเซเนกาและซิโนแวคยังสามารถใช้กับโควิดกลายพันธุ์เชื้อสายบราซิลได้ แต่ยิ่งมีการกลายพันธุ์มากกว่านี้จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพน้อยลง ปัจจุบันประเทศบราซิลมียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 13 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วกว่า 3.6 แสนศพ

มือปืนไม่ทราบชื่อบุก กราดยิง โกดังของบริษัทขนส่ง FedEx ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 ศพ เมื่อวันที่ 16 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกกราดยิงโกดัง FedEx บริษัทขนส่งขนาดใหญ่ที่นครอินเดียนาโพลิส ในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1 ราย และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้วอย่างน้อย 8 ศพ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าคนร้ายได้ปลิดชีพตนเอง และเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เป็นภัยกับชุมนุม นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลแล้ว ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชัดเจนว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุครั้งนี้หรือไม่

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง